รวมแหล่งอาหารอุดมกรดไขมันโอเมก้า 3

รวมแหล่งอาหารอุดมกรดไขมันโอเมก้า 3

ไม่ใช่เด็กเท่านั้นที่ต้องการกรดไขมันโอเมกา 3 ร่างกายผู้ใหญ่ก็ต้องการเช่นกัน กรดไขมันนี้มีโครงสร้างไขมันที่สำคัญต่อสุขภาพโดยรวม โดยเฉพาะการทำงานของ ตับ และระบบประสาทเกี่ยวกับการพัฒนาเรียนรู้ แถมยังช่วยรักษาอาการบางอย่างได้ อาทิ เบาหวานประเภท 2 เล็บเปราะ ผมแห้ง ผิวคัน ปวดข้อต่อ


จะเห็นได้ว่า ผักหลายชนิดสามารถซื้อหาได้ง่ายในท้องตลาดบ้านเรา และมีราคาไม่แพงมากจนเกินไป เป็นทางเลือกสำหรับท่านที่ต้องการโอเมก้า 3 นะคะ
1. ไข่

อาหารคู่ครัวอย่างไข่นั้น รับประทานทุกวัน จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้ แต่ควรระวังเรื่องน้ำมันที่ใช้ในการทอด และผู้ที่มีปัญหาเรื่องคอเลสเตอรอลควรปรึกษาแพทย์
2. ดอกกะหล่ำ

นับเป็นผักคู่ครัวที่อร่อยทั้งผัดทั้งลวก แถมยังอุดมไปด้วยโปแตสเซียม แมกนีเซียม และไนอาซิน ที่ช่วยให้หัวใจแข็งแรง
3. ปลาแซลมอน

เป็นที่รู้กันดีว่าการรับประทานปลาแซลมอน และปลาสด รวมถึงอาหารทะเล อย่างกุ้งและปู จะช่วยให้ได้รับกรดไขมันโอเมกา 3 อย่างน้อยควรรับประทาน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
4. น้ำมันตับปลา

นับเป็นอาหารเสริมที่นิยมกันมานาน และยังได้รับความนิยมสูงไม่ว่าจะเป็นในรูปของเหลวหรือเม็ดแคปซูล
5. ถั่ววอลนัท

นอกจากอร่อยแล้วยังอุดมไปด้วยสารอาหาร กากใย โปรตีน เหล็ก และกรดไขมันโอเมกา 3 รับประทานหนึ่งกำมือทุกวัน จะกินเล่น หรือใส่ในโยเกิร์ตก็ช่วยให้ได้รับกรดไขมันโอเมกา 3 อย่างเพียงพอ
6. ถั่วเหลือง

ไม่ว่าจะเป็นถั่วเหลืองหรือนมถั่วเหลือง ก็เป็นแหล่งกรดไขมันโอเมกา 3 ที่เยี่ยมยอด นมถั่วเหลือง 1 แก้วต่อวันก็เพียงพอ แถมยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามิน กากใย แคลเซียม โปรตีน และโฟเลท
7. น้ำมันคาโนลา

หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยให้หัวใจแข็งแรงขึ้นได้ และยังเหมาะสำหรับใช้ทอดแทน น้ำมันพืชที่เป็นพิษ ต่อสุขภาพลำไส้ หรือจะใช้เหยาะบนผักสลัดแทนน้ำสลัด ก็อุดมด้วยสารอาหารทีเดียว
8. ผักโขม

นอกจากจะอุดมไปด้วยแคลเซียม เหล็ก และแร่ธาตุแล้ว ยังเปี่ยมกรดไขมันโอเมกา 3 เพียงรับประทานผักโขมต้มวันละถ้วยดีต่อสุขภาพแน่นอน



บทความโดย หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการ

สลัด (Salads) คำนี้มาจากไหน

สลัด (Salads) คำนี้มาจากไหน

คำว่า “สลัด”หรือ “Salads”มาจากภาษาฝรั่งเศส คือคาว่า “Salada”ซึ่งมีความหมาย ตรงกับภาษาลาติน “Salata”ที่แปลว่า “Salty”หรือแปลว่ารสเค็มนั่นเอง ดังนั้นจึงเขียนได้อีกชื่อนึง ว่า “Salted Herbs”หรือ “HerbaSalta”ซึ่งแปลว่า “ผักที่ปรุงด้วยน้าสลัดอันมีส่วนผสมของเกลือ”

การแยกประเภทของสลัด (Salads) สามารถแยกได้หลายประเภท ขึ้นอยู่ว่าจะใช้เกณฑ์ใดในการแยกประเภท แต่ที่สาคัญที่สุด chef ต้องเข้าใจก่อนว่าจะทำสลัดเพื่อเสิร์ฟในรูปแบบใด เช่น
  • ทำสลัดเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย (Appetizer Salad) |

    Parmesan walnut salad in enddive leave

    appitizer salad จาก Renaissance Bangkok
  • ทำสลัดเสิร์ฟคู่กับจานหลัก(Side Dish Salad)

  • ทำสลัดเสิร์ฟเป็นอาหารจานหลัก(Main Salad)

    Tsu Japanese Restaurant โรงแรม เจดับบลิว แมริออท
ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการทำเพื่อเสิร์ฟนั้นๆ
แนะนำสูตรสลัดให้ลองทำ สูตรจากเพื่อนๆ Foodie

บทความโดย วิทยาลัยดุสิตธานี